จีนเป็นต้นกำเนิดของสุรา และเป็นแหล่งที่มาทางวัฒนธรรมของสุราด้วย เป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่เริ่มมีการหมักสุรา จากตำนานกล่าวกันว่า “ตู้คัง (杜康)” แห่งราชวงศ์เซี่ยเป็นผู้คิดค้นสุราขึ้น ครั้งหนึ่งโจโฉได้แต่งบทกวีไว้ว่า “จะคลายเศร้าโศกาอย่างไร หากชีวิตไร้ซึ่งตู้คัง”
สุรามีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นในจีน คือเหล้าเหลืองและเหล้าขาว เป็นเหล้าที่หมักจากธัญพืช อย่างสาโทนี่ก็เป็นเหล้าที่หมักมาจากข้าว รสชาติทั้งเปรี้ยวทั้งหวาน ดื่มดีนักแหล่ะ
ตัวอักษรเจี่ยกู่เหวิน คำว่า “สุรา” หรือ “เหล้า” (酒 jiŭ จิ่ว) ในสมัยราชวงศ์ซางก็มีอักษรคำนี้แล้ว จะเห็นได้ว่าเหล้ามีประวัติอันยาวนาน สมัยก่อน มีเพียงแต่พระราชาและชนชั้นสูงเท่านั้นที่มีสิทธิ์ดื่มสุรา สุราถือเป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพชนิดหนึ่ง (ในกรณีดื่มในปริมาณน้อยเท่านั้น) ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตสูบฉีดได้ดี เสี่ยงกับโรคหลอดเลือดหัวใจน้อยลง แต่ถ้าดื่มมากไปก็มีอันตรายสูง อาจส่งผลร้ายต่อตับ ม้าม และสมองได้
เหล้าที่ขึ้นชื่อมีอยู่มากมายในประเทศจีน ได้แก่ เหมาไถ (茅台), อู่เหลียงเย่ (五粮液), เฝินจิ่ว (汾酒),จู๋เย่ชิง (竹叶青), หลูโจวเหล่าเจี้ยว (泸州老窖),กู๋จิ่งก้งจิ่ว (古井贡酒),เจียฟ่านจิ่ว (加饭酒), ไวน์องุ่นจางอวี้ (张裕葡萄酒)และไวน์องุ่นฉางเฉิงเชียนหง (长城千红葡萄酒), เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นเหล้าที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งสิ้น
ในปีคริสตศักราช 1915 ในงานมหกรรมสินค้านานาชาติปานามา ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศจีนได้นำเหล้าเหมาไถไปออกแสดงเพื่อร่วมรับการตัดสิน แต่ด้วยรูปร่างภาชนะที่เรียบง่าย บรรจุภัณฑ์สีเหลืองนั้นดูไม่สวยงาม ไม่สะดุดตาสะดุดใจ ทำให้ไม่ค่อยได้รับการต้อนรับเท่าที่ควร หนำซ้ำยังถูกเยาะหยันและเกือบถูกคัดออก คณะผู้แทนชาวจีนโกรธมาก แต่ในขณะที่กำลังเกิดการโต้แย้งถกเถียงอยู่นั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านเหล้าของจีนท่านหนึ่งได้เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เจตนาทำขวดเหล้าเหมาไถตกแตกไหลนองพื้น จนในห้องประชุมเกิดกลิ่นหอมอย่างน่าอัศจรรย์ขึ้น ทำให้ตัวแทนของแต่ละประเทศรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในที่สุดเหล้าเหมาไถก็ได้รางวัลเหรียญทอง และติดสินให้เป็น “1 ใน 3 เหล้ากลั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก” อันได้แก่ เหล้าเหมาไถ วิสกี้ของสก็อตแลนด์ และบรั่นดีของฝรั่งเศส
สำนักพิมพ์ THONGKASEM
สุรามีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นในจีน คือเหล้าเหลืองและเหล้าขาว เป็นเหล้าที่หมักจากธัญพืช อย่างสาโทนี่ก็เป็นเหล้าที่หมักมาจากข้าว รสชาติทั้งเปรี้ยวทั้งหวาน ดื่มดีนักแหล่ะ
ตัวอักษรเจี่ยกู่เหวิน คำว่า “สุรา” หรือ “เหล้า” (酒 jiŭ จิ่ว) ในสมัยราชวงศ์ซางก็มีอักษรคำนี้แล้ว จะเห็นได้ว่าเหล้ามีประวัติอันยาวนาน สมัยก่อน มีเพียงแต่พระราชาและชนชั้นสูงเท่านั้นที่มีสิทธิ์ดื่มสุรา สุราถือเป็นเครื่องดื่มบำรุงสุขภาพชนิดหนึ่ง (ในกรณีดื่มในปริมาณน้อยเท่านั้น) ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของโลหิตสูบฉีดได้ดี เสี่ยงกับโรคหลอดเลือดหัวใจน้อยลง แต่ถ้าดื่มมากไปก็มีอันตรายสูง อาจส่งผลร้ายต่อตับ ม้าม และสมองได้
มีเรื่องเล่ากล่าวถึงในสมัยราชวงศ์ซาง ผู้คนนิยมดื่มเหล้ามาก โดยเฉพาะชนชั้นปกครองในยุคหลังๆ พวกเขาดื่มเหล้ากันตลอด ไม่สนใจบ้านเมือง แม้แต่ซางโจ้วอ๋อง กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ซาง ที่ทรงสร้างลำธารเหล้าลำเนาเนื้อ (เอาเหล้ามาใส่ในสระน้ำ แล้วเอาเนื้อสัตว์มาห้อยไว้ตามต้นไม้) ก็ติดเหล้าเมามายจนเสียเมือง จึงมีคำพูดว่า “ราชวงศ์ซางสิ้น เพราะฤทธิ์สุรา” ดังนั้น ในสมัยราชวงศ์โจว จึงได้มีบัญญัติห้ามปรามการดื่มสุราโดยเด็ดขาด
ในประเทศจีนนั้น ประวัติศาสตร์ของสุรามีมายาวนานกว่าชาเสียอีก ไหเหล้าที่ถูกขุดพบในปีคริสตศักราช 1986 ที่มณฑลเหอหนานนั้น เป็นเหล้าโบราณที่มีอายุมากกว่าสามพันปีเลยทีเดียวเหล้าที่ขึ้นชื่อมีอยู่มากมายในประเทศจีน ได้แก่ เหมาไถ (茅台), อู่เหลียงเย่ (五粮液), เฝินจิ่ว (汾酒),จู๋เย่ชิง (竹叶青), หลูโจวเหล่าเจี้ยว (泸州老窖),กู๋จิ่งก้งจิ่ว (古井贡酒),เจียฟ่านจิ่ว (加饭酒), ไวน์องุ่นจางอวี้ (张裕葡萄酒)และไวน์องุ่นฉางเฉิงเชียนหง (长城千红葡萄酒), เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นเหล้าที่มีชื่อเสียงระดับโลกทั้งสิ้น
ในปีคริสตศักราช 1915 ในงานมหกรรมสินค้านานาชาติปานามา ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศจีนได้นำเหล้าเหมาไถไปออกแสดงเพื่อร่วมรับการตัดสิน แต่ด้วยรูปร่างภาชนะที่เรียบง่าย บรรจุภัณฑ์สีเหลืองนั้นดูไม่สวยงาม ไม่สะดุดตาสะดุดใจ ทำให้ไม่ค่อยได้รับการต้อนรับเท่าที่ควร หนำซ้ำยังถูกเยาะหยันและเกือบถูกคัดออก คณะผู้แทนชาวจีนโกรธมาก แต่ในขณะที่กำลังเกิดการโต้แย้งถกเถียงอยู่นั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านเหล้าของจีนท่านหนึ่งได้เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส เจตนาทำขวดเหล้าเหมาไถตกแตกไหลนองพื้น จนในห้องประชุมเกิดกลิ่นหอมอย่างน่าอัศจรรย์ขึ้น ทำให้ตัวแทนของแต่ละประเทศรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก ในที่สุดเหล้าเหมาไถก็ได้รางวัลเหรียญทอง และติดสินให้เป็น “1 ใน 3 เหล้ากลั่นที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก” อันได้แก่ เหล้าเหมาไถ วิสกี้ของสก็อตแลนด์ และบรั่นดีของฝรั่งเศส
สาระน่ารู้คัดจากหนังสือการ์ตูน
อ๋อ! อย่างนี้นี่เอง ฉลาดรู้ทุกเรื่องของเมืองจีนสำนักพิมพ์ THONGKASEM
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น