4/14/2553

关于请假 [เกี่ยวกับการลา]

每个人都请过假,请假的理由也是多种多样的。不过,请假不一定真有事,这也是大家都知道的情况。
请假的人不少是想偷懒的人。上学时代,请假是经常的事,好像几天不请假,浑身就不舒服似的。当然,小孩子就是小孩子。请起假来,理由往往是可笑的,比如“老师,今天我浑身肚子疼”,“今天,突然觉得不舒服,医生叫我休息两天”等等。老师听了这些理由,通常是微笑地看看“可怜”的请假者,然后就同情地批准了。 请玩假以后,自然可以去做自己想做的事。。。
那些年龄小,没有发现请假原来也是病,可如果得上了,想治好却没那么容易。
成人的请假和小孩子不同。相比之下,他们的请假不再是跟自己过不去了。什么样的话都能说出口,什么样的倒霉都能遇见。说自己有病得少了,大多数是说自己的亲戚朋友有病了或是遇见车祸了,自己应该去安慰一下等等。请假的人常常都是这样挂着羊头卖狗肉。
从古至今,请假的理由有多少呢?
(据2005 年3 月25日书籍之家网《请假的理由》,作者:悄默)

เกี่ยวกับการลา
เราทุกคนคงเคยผ่านการลามาแล้วทั้งนั้น เหตุผลของการลาก็มักจะแตกต่างกันไปหลายรูปแบบ ซึ่งเหตุผลของการลานั้นๆ ก็ไม่แน่เสมอไปว่าจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เราทุกคนต่างก็รู้ๆ กันอยู่
เป็นเรื่องปกติที่ส่วนมากเราจะลาเพราะขึ้เกียจทำงาน อยากหลบงาน หรืออยากจะโดดเรียน ถ้าไม่ได้ลาซะบ้าง คงจะครั่นเนื้อครั่นตัวไม่สบายขึ้นมา แน่นอนหล่ะที่ว่า เด็กยังไงก็ยังเป็นเด็ก เมื่อพวกเขาอยากจะลาหยุดเรียน เหตุผลที่ลามักจะฟังดูน่าขันเสมอ เช่น คุณครูค๊ะ วันนี้ทั่วทั้งร่างกายของหนูปวดท้องไปหมด, หรือ วันนี้หนูเกิดไม่สบายขึ้นมากระทันหัน คุณหมอบอกให้หนูพักเรียน 2 วัน เป็นต้น คุณครูมักจะอมยิ้มกับเหตุผลที่น่าสงสารเหล่านี้ แต่แล้วก็ต้องเห็นใจอนุญาตให้ลาได้ พอได้รับอนุญาตให้ลาหยุดกันแล้ว แต่ละคนก็จะไปทำตามสิ่งที่ตนเองปรารถนาที่จะทำ
จะเห็นได้ว่าในตอนที่เรายังเป็นเด็กอยู่ มักอ้างว่าป่วย ใช้เป็นข้ออ้างในการลาเพียงเหตุผลเดียว ซึ่งที่จริงแล้วเราอาจไม่ได้ป่วย แต่หากวันใดเกิดป่วยขึ้นมาจริงๆ อาจจะลาได้ไม่ง่ายนัก
แต่เหตุผลการลาของผู้ใหญ่จะไม่เหมือนกับเด็ก เปรียบเทียบกันแล้ว การลาหยุดของผู้ใหญ่มักจะไม่นำเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเองมาอ้าง เหตุผลที่จะลามีสารพัด แม้กระทั่งเคราะห์ร้ายต่างๆ ก็อ้างว่าเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น การที่จะพูดว่าตัวเองนั้นป่วยกลับน้อยลง  ส่วนใหญ่มักจะว่าอ้างญาติสนิทมิตรสหายป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ ตัวเองจะต้องเข้าไปช่วยเหลือดูแล ปลอบใจ เป็นต้น คนที่ลาหยุด มักจะไม่พูดจริง หรือบอกเหตุผลตรงๆ ในเรื่องที่ตนเองจะลา นับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ลองคิดดูสิว่าเหตุผลของการลามีมากเท่าไหร่แล้ว?

生词:
偷懒    tōu-lăn     เกียจคร้าน
时代    shí-dài     ยุค, สมัย
浑身    hùn-shēn ทั่วทั้งตัว
似的    shì-dē    เหมือนอย่างนั้น, เหมือนกับ   
通常    tōng-cháng มักจะ, เป็นปกติ
可怜    kĕ-lián น่าสงสาร
同情    tong-qíng เห็นใจ
批准    pī-zhŭn อนุญาต
年龄    nián-líng วัย, อายุ
治       zhì บำบัด, รักษา
成人    chéng-rén เป็นผู้ใหญ่
相比    xiāng-bĭ เปรียบเทียบ
亲戚    qīn-qī ญาติสนิท
车祸    chē-huò อุบัติเหตุทางรถ
至       zhì จนกระทั่ง, กระทั่งถึง, จนถึง

4/13/2553

让人哭笑不得的请假理由 เหตุผลการลาที่ทำให้คนพูดไม่ออก

一个小学生三天没来上课,第四天他来了。老师问他为什么旷课,他说: “大前天是我爸爸病了,前天我妈妈病了,昨天…我家的电脑有病毒了.”
นักเรียนประถมคนหนึ่งไม่เข้าชั้นเรียน 3 วัน วันที่ 4 เขามาแล้ว คุณครูจึงถามว่าทำไมถึงได้โดดเรียนไป เขาตอบว่า  สองวันก่อนพ่อของผมป่วย เมื่อวานซืนแม่ของผมป่วย เมื่อวานนี้..ที่บ้าน..คอมพิวเตอร์ของผมติดไวรัสครับ.

冬天的早晨,一位女生刚上课就请假. 她告诉老师, 早晨起床晚了,怕迟到, 急忙跑到学校, 结果发现只穿了一只袜子. 现在脚冷得受不了, 所以得马上回家去穿袜子.
เช้าตรู่ของฤดูหนาว นักเรียนหญิงคนหนึ่งเพิ่งเข้าเรียนมาก็ขอลาแล้ว เธอบอกกับครูว่า เมื่อเช้านี้เธอตื่นสาย กลัวว่าจะมาเรียนไม่ทัน ก็เลยรีบวิ่งมาโรงเรียน พอมาถึงกลับพบว่า สวมถุงเท้ามาแค่ข้างเดียว ตอนนี้เท้าเย็นจนทนไม่ไหวแล้ว จึงขอลากลับบ้านเพื่อรีบไปใส่ถุงเท้า

这天早上, 老师接到一位女生来的电话: “我昨天算命了,算命先生说我最近有大难,要我只呆在家里,不能出行, 更不能上学. ” 老师说: “这是迷信, 不准请假!”  女生的妈妈抢过电话大声叫道: “我就这一个宝贝女儿, 她要是出门被车撞了, 被人杀了,被篓上掉下来的花盆砸伤了,怎么办?” เมื่อเช้านี้ คุณครูได้รับโทรศัพท์จากนักเรียนหญิงคนหนึ่ง “เมื่อวานหนูไปตรวจดวงชะตามา หมอดูทักว่าระยะนี้หนูมีเคราะห์ ให้อยู่แต่บ้านห้ามออกไปไหน ยิ่งมาเรียนก็ยิ่งไม่ได้” คุณครูตอบว่า “นี่เป็นเรื่องงมงาย ครูไม่อนุญาตให้หยุดเรียน” แม่ของนักเรียนหญิงคนนั้นรีบแย่งโทรศัพท์มาพูด “เขาเป็นลูกสาวสุดที่รักของฉันเพียงคนเดียวนะ ถ้าเกิดเขาออกจากบ้านแล้วถูกรถชน หรือถูกคนฆ่า หรือถูกกระถางดอกไม้ตกจากตึกกระแทกใส่บาดเจ็บล่ะก็ ครูจะทำยังไง”

某中学有两个淘气的男生, 一位在上课的时候突然站起来惊叫: “我看不见了,我突然什么也看不见了,我的眼睛…” 女老师关切地说: “快去医院!” 那男生就一溜烟跑了出去. 他后面的男生立刻站起来对老师说: “我得去帮他,他看不见,万一撞倒墙就糟了.” 女老师说: “去吧,如果严重就找他家长啊!”  十分钟后,有人看见他俩在校门外的冷饮店里乐呵呵地吃着冰激凌.
ชั้นมัธยมแห่งหนึ่งมีนักเรียนชายที่เกเรอยู่สองคน คนแรกขณะอยู่ในห้องเรียนจู่ๆ ก็ลุกขึ้นยืนอย่างกระทันหันและร้องจนน่าตกใจว่า “ผมมองไม่เห็นแล้ว จู่ๆ ผมก็มองอะไรไม่เห็นเลย ตา...ตาของผม..”
ครูผู้หญิงพูดอย่างเป็นห่วงว่า “เธอรีบไปโรงพยาบาลเร็วเข้า” นักเรียนชายคนนั้นเพียงแว๊บเดียวก็วิ่งหายออกไปอย่างไร้ร่องรอย นักเรียนชายอีกคนนั่งอยู่ด้านหลังรีบลุกขึ้นยืนพูดว่า “ผมต้องไปช่วยเขาครับ เขามองอะไรไม่เห็น เกิดไปชนกับกำแพงเข้าละก็ แย่แน่ๆ เลยครับ” ครูผู้หญิงพูดว่า “งั้นเธอก็รีบไปช่วยเขาเถอะ ถ้าหากว่าร้ายแรงมากละก็ ให้รีบบอกผู้ปกครองของเขาด้วยนะ” สิบนาทีให้หลัง มีคนเห็นทั้งสองกำลังนั่งกินไอศครีมอย่างมีความสุขอยู่ที่ร้านขายเครื่องดื่มหน้าประตูโรงเรียน


(据2004 年4 月20日东方新闻出版网
((让老师哭笑不得的请假理由)), 作者: 佚名)

生词:
请假 qĭng-jià ขอลา,ขอหยุด
理由 lĭ-yóu เหตุผล
旷课 kuàng-kè โดดเรียน,หนีเรียน
病毒 bìng-dú ไวรัส
袜子 wà-zĭ ถุงเท้า
算命 suàn-mìng ตรวจดวงชะตา
难 nàn เคราะห์
呆 dāi อยู่
迷信 mí-xìn ความเชื่อที่งมงาย
准 zhŭn    อนุญาต
抢 qiăng    แย่ง
宝贝 băo-bèi ลูกรัก,อันเป็นที่รัก
撞   zhuàng ชน, ปะทะ
花盆 huā-pén กระถางดอกไม้
砸   zá ทุบ,กระแทก
某   mŏu นั้นๆ
淘气 táo-qì เกเร,แสบ,ถ้าใช้กับผู้หญิงหมายถึงขี้งอน
关切 guān-qiè เป็นห่วง,กังวล
一溜烟 yí-liù-yān รวดเร็วราวหมอกควัน
万一 wàn-yī เผื่อว่า...
严重 yán-zhòng หนักหนา สาหัส ซีเรียส
家长 jiā-zhăng ผู้ปกครอง
冷饮 lĕng-yĭn เครื่องดื่มเย็นๆ
乐呵呵  lè-hē-hē มีความสุข อย่างลิงโลดใจ
冰激凌 bīng-jī-líng ไอศครีม

จากหนังสือเรียน 阅读与写作教程[I] 初级

4/12/2553

提示 คำเตือน

在英国,所有灯泡的包装纸上都印着这样一句话:Do not put that object into your mouth!  意思是“不要把灯泡放进口中”!是不是有点儿可笑?除了神经病,谁会把灯泡塞进嘴里?一天,我和朋友谈到了这个问题,他突然很认真地告诉我,由本书上也这么说, 真的有人试过,而且确实拿不出来。原因是灯泡放进口中后便会卡住,无论如何也拿不出来。
对此,我十分怀疑。我认为灯泡里面十分光滑,如果可以放进口中,证明口部足够大,因此理论上说应该可以拿出来。回到家中, 我拿起一个灯泡左思右想,始终觉得我的想法没错。我决定试一下。
为此我专门买了一瓶食用油, 以防卡住拿不出来。一切准备好后,我把灯泡放进口中。不用一秒钟,灯泡边滑入口中, 照这样看,要拿出来绝无问题。接着,我轻松地拉了一下灯泡,然后再加点儿力,又把口张大一些。 天啊,真的卡住拉不出来了!好在还有一瓶油…………….
三十分钟后,我倒了十分之三瓶油,其中一半倒进了肚子,可那灯泡还是动也不动。 我只好打电话求救,号码刚按了一半, 才想起口中有个灯泡,如何说话?没办法,只好写了张纸条,去敲邻居的门。 邻居一见我的样子, 就大笑起来,笑得流出了眼泪。 半小时后,它帮我叫了一辆出租。 司机一见我,笑得半天开不了车。 在车上,他不停地说我的嘴太小,还说如果是他就没问题。
在医院, 我被护士马了十多分钟,说我浪费她的时间。 那些本来病苦万方的病人,见了我都好像没病了,人人开怀大笑。  医生把棉花放进我嘴里的两边,然后轻轻把灯泡敲碎, 一片片拿出来。
当我走出医院大门时,迎面来了一个人,正是刚才那位司机,他口里正含着一个灯泡……….
( 据《现代女报》)


คำเตือน
ที่ประเทศอังกฤษ บนกล่องบรรจุภัณฑ์ของหลอดไฟฟ้าแบบกลมมนจะมีคำเตือนเขียนไว้ว่า “Do not put that object into your mouth!” ความหมายก็คือ “อย่านำของสิ่งนี้ใส่เข้าไปในปากของท่าน” ฟังดูน่าขันใช่มั๊ย เพราะนอกจากคนบ้าแล้ว มีใครบ้างหล่ะที่จะเอาหลอดไฟยัดใส่เข้าไปในปาก
วันหนึ่งผมกับเพื่อนคุยกันถึงเรื่องนี้ เพื่อนของผมพูดอย่างจริงจังว่า มีเอกสารยืนยันด้วยนะว่าเคยมีคนเอาหลอดไฟใส่เข้าไปในปาก แล้วเอาออกมาไม่ได้ เหตุผลเพราะว่าเมื่อหลอดไฟเข้าไปอยู่ในปากแล้วมันจะติดคาอยู่ ไม่สามารถนำเอาออกมาได้
กับเรื่องนี้ ผมรู้สึกสงสัยเป็นอย่างมาก ก็ในเมื่อหลอดไฟมันทั้งเรียบทั้งลื่นซะขนาดนั้น หากมันสามารถนำเข้าไปในปากได้ก็แสดงว่าปากมีขนาดกว้างพอ ตามทฤษฏีแล้ว มันก็น่าจะนำออกมาได้เช่นกัน พอกลับไปถึงบ้าน ผมก็เลยเอาหลอดไฟมาดวงหนึ่ง คิดแล้วคิดอีก สุดท้ายผมก็รู้สึกว่าความเข้าใจของผมนั้นไม่ผิดแน่นอน ก็เลยตัดสินใจที่จะทดลองสักครั้งหนึ่ง
เพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะ ผมยอมลงทุนซื้อน้ำมันพืชมาไว้ขวดนึง เผื่อว่าอาจจะต้องใช้ หากหลอดไฟติดคาปากอยู่แล้วเอาออกไม่ได้ พอเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมก็ลองนำหลอดไฟค่อยๆ ใส่เข้าไปในปาก ไม่นานนัก หลอดไฟก็ลื่นไถลเข้าปากไปได้ ดูตามรูปการณ์แล้วหากจะเอาออกก็ไม่น่าจะมี่ปัญหาอะไร ผมจึงลองออกแรงแต่น้อยค่อยๆ ดึงหลอดไฟออก หลังจากการดึงเบาๆ ไม่ได้ผล ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นดึงแรงขึ้น แรงขึ้นและแรงยิ่งขึ้น โอ..พระเจ้า......มันยังคาอยู่ที่ปากอย่างงั้น ดึงไม่ออกจริงๆ ยังดีนะที่ยังมีน้ำมันพืชอีกขวดมาช่วย.....
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ผมเทน้ำมันพืชไปแล้วเกือบค่อนขวด ความจริงแล้วที่เทเข้าปากไปนั้นลงไปอยู่ในกระเพาะของผมซะเกือบครึ่งแล้ว แต่ไอ้หลอดไฟเจ้ากรรม ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย คิดไปคิดมาผมคงต้องโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือแล้วหล่ะ พอกดหมายเลขโทรศัพท์ไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็นึกขึ้นได้ว่า หลอดไฟยังคาอยู่ในปาก แล้วจะพูดยังไงล่ะเนี่ย ไม่มีวิธีแล้ว คงต้องเขียนโน๊ตขึ้นมาแผ่นนึง แล้วไปเคาะประตูเพื่อนบ้านขอความช่วยเหลือดีกว่า พอเพื่อนบ้านเห็นหน้าผมเท่านั้นแหล่ะ เธอก็หัวเราะเสียงลั่น หัวเราะจนน้ำตาเร็ดน้ำตาร่วงไปเลย จากนั้นจึงเรียกแท๊กซี่ให้พาผมไปโรงพยาบาล คนขับแท๊กซี่พอเห็นผมเข้า ก็หัวเราะอยู่เป็นนานสองนานกว่าจะออกรถได้ ระหว่างทางเขาไม่หยุดที่จะพูดว่า ปากของผมน่ะเล็กไป ถ้าเป็นปากของเขาละก็รับรองไม่มีปัญหา
ที่โรงพยาบาล ผมถูกคุณพยาบาลด่าซะเป็นกระบุงหาว่าทำให้เธอเสียเวลา บรรดาคนไข้ที่กำลังเจ็บไข้ได้ป่วยทั้งหลาย พอเห็นผมเข้าเท่านั้น ดูเหมือนว่าอาการป่วยเกือบจะหายเป็นปลิดทิ้ง ทุกคนพากันหัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง คุณหมอเอาสำลียัดเข้าไปในกระพุ้งแก้มของผมทั้ง 2 ข้าง จากนั้นค่อยๆ กระเทาะเอาหลอดไฟออกทีละชิ้น....ทีละชิ้น...
ตอนที่ผมเดินออกมาถึงประตูใหญ่ของโรงพยาบาล ก็ได้เผชิญหน้ากับคนๆ นึง เขาคือคนขับแท๊กซี่เมื่อครู่นี้เอง....เอ่อ...คือว่า...ในปากของเขากำลังอมหลอดไฟอยู่ครับ....
(จาก หนังสือพิมพ์เซี่ยนไต้หนวี่)
生词:
提示  tí-shì เสนอแนะ,เตือน
灯泡  dēng-pào หลอดไฟ (แบบหลอดกลมมน)
包装  bāo-zhuāng บรรจุภัณฑ์
神经病 shén-jīng-bìng โรคประสาท,คนบ้า
赛   sāi ยัด, ใส่เข้าไป
卡   qiă ติด, คาอยู่
无论如何 wú-lùn rú-hé ไม่ว่ายังไร,อย่างไรก็ตาม
表面  biăo-miàn พื้นผิว
光滑  guāng-huá ลื่นเรียบ,เป็นมัน
证明  zhèng-míng พิสูจน์,ทดลอง
足够  zhú-gòu เพียงพอ
理论  lí-lùn ทฤษฎี
左思右想 zuŏ-sī-yòu-xiăng คิดไปคิดมา
始终  shĭ-zhōng ตั้งแต่ต้นจนจบ
专门  zhuān-mén โดยเฉพาะ
以防  yĭ-făng เพื่อป้องกัน
绝   jué อย่างเด็ดขาด, เป็นที่สุด
轻松  qīng-sōng อย่างสบายๆ, ค่อยๆ   
张(嘴) zhāng (zuĭ) อ้า (ปาก)
求救  qiú-jiù ขอความช่วยเหลือ
按   àn กด (动)
邻居  lín-jū เพื่อนบ้าน
浪费  làng-fèi เสียเปล่า
痛苦  tong-kŭ เจ็บ,เป็นทุกข์,ทรมาร
万分  wàn-fēn แสนเข็ญ
开怀大笑 kāi-huái-dà-xiào หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง
碎  suì แตกเป็นชิ้นเล็กๆ
迎面 yìng-miàn เผชิญหน้า
含  hán อม (动)


จากหนังสือเรียน 阅读与写作教程[I] 初级

4/10/2553

这此无银三百两 ที่นี่ไม่มีเงิน 300 ตำลึง

从前,有个叫张三的人得到了三百两银子。他从没见过这么多银子, 非常怕被人偷走, 可又不知道把它们放在哪里才安全。想来想去,终于想出了一个自认为最好的办法。当天夜里, 张三在自家的院子里挖了一个深坑, 把银子埋了下去。埋好以后还不放心,他又在旁边竖了一个牌子,上边写了七个大字:“此地无银三百两。”这才放心地回去睡大觉了。
张三有个邻居叫阿二,夜里听见有人挖坑的声音,觉得很奇怪, 忍不住来到张三的院子外边偷看。一看到牌子上的字,阿二就乐了。看张三走后, 他赶紧找来工具,偷偷把银子挖出来捧回了家。回到家一数, 一共有三百两银子。他高兴极了,马上把银子藏了起来。藏好以后,阿二心中暗暗高兴,可忽然又一想:“不行,明天早上如果张三发现银子不见了,一定会首先怀疑我。我得想个办法,不能让他对我产生怀疑。”于是,阿二赶紧回去, 在张三的牌子旁边竖了个牌子,上边也写了七个大字:“隔壁阿二不曾偷。”
哈哈哈

ที่นี่ไม่มีเงิน 300 ตำลึง
แต่ก่อนมีคนชื่อจางซาน ได้รับเงินจำนวน 300 ตำลึง เป็นเพราะตนไม่เคยมีเงินจำนวนมากขนาดนี้มาก่อนจึงเกิดความกลัวว่าจะถูกคนขโมยไป และไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดีเงินจำนวนนี้ถึงจะปลอดภัย คิดไปคิดมา ท้ายที่สุดเขาก็หาวิธีที่ตนเองคิดว่าดีที่สุดแล้วได้ คืนนั้นเขาลงมือขุดหลุมลึกๆ ที่บริเวณลานบ้านของตนเอง แล้วนำเงินจำนวนนั้นฝังไว้ ฝังเสร็จแล้วก็ยังไม่วางใจ จึงหาป้ายมาปัก แล้วเขียนตัวอักษรใหญ่ๆ ไว้เจ็ดตัวว่า “ที่นี่ไม่มีเงิน 300 ตำลึง” อย่างนี้แล้วจึงค่อยวางใจกลับไปนอนได้
จางซานมีเพื่อนบ้านชื่ออาเอ้อ ตกกลางคืนได้ยินเสียงคนขุดดิน จึงเกิดความสงสัย อดไม่ได้ต้องมแอบมาดูข้างๆ ลานบ้านของจางซาน พอเห็นตัวหนังสือบนป้าย อาเอ้อก็ดีใจยิ่งนัก เมื่อจางซานเดินจากไปแล้ว เขาจึงรีบหาเครื่องไม้เครื่องมือมาลงมือขุดเอาเงินจำนวนนั้นขึ้นมา ได้เงินแล้วก็รีบหอบกลับบ้าน ถึงบ้านลองนับดู ทั้งหมดมีอยู่ 300 ชั่ง อาเอ้อดีใจเป็นที่สุด รีบนำเงินจำนวนนั้นซ่อนไว้ แอบนึกดีใจอยู่เงียบๆ แต่แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่า “หากพรุ่งนี้จางซานพบว่าเงินหายไป เขาจะต้องสงสัยตนเองเป็นแน่” เขาจึงคิดที่จะหาทางทำให้จางซานไม่เกิดความสงสัย  ดังนั้นจึงรีบกลับไปที่จุดเดิม หาป้ายมาปักไว้ข้างๆ ป้ายของจางซาน แล้วเขียนตัวอักษรใหญ่ๆ ไว้เจ็ดตัวเช่นกัน ว่า “เพื่อนบ้านอาเอ้อไม่เคยขโมย”

生词:
当天     dāng – tiān    วันนั้น
院子     yuàn – zĭ    ลานบ้าน
挖         wà    ขุด (动)
坑        kēng    รู, หลุม
埋        mái    ฝัง (动)
竖        shù    ปัก (动)
牌子    pái – zĭ     ป้าย
忍不住 rĕn – bu – zhù   อดไม่ได้, ทนไม่ไหว
偷看    tōu – kàn  แอบดู
工具    gōng – jù  เครื่องมือ
数        shŭ   นับ (动)
藏        cáng   ซ่อน, แอบซ่อน (动)
暗暗    àn – àn   แบบเงียบๆ แอบๆไว้
怀疑    huái – yí   สงสัย (动)
隔壁    gē – bì  เพื่อนบ้าน

จากหนังสือเรียน 阅读与写作教程[I] 初级

塞翁失马 ผู้เฒ่าซ่ายเสียม้า


古时代,在北方的边塞住着一个老人。一天,他养的一匹马不见了,找了好久也没有找到,邻居们都来安慰他。没想到老人却一点儿不着急,也不悲伤,反而说:“可能是好事呢!”
过了几个月,那匹丢了的马又回来了, 而且后面还跟着一匹骏马。邻居们都来祝贺,可是老人并没有表现出特别高兴的样子,说:“不必太高兴,这也许是件坏事呢!”
几天后,老人的儿子出去骑马的时候、不知道为什么,马好像疯了一样,拼命地跑。儿子控制不了,从马背上摔了下来,结果把腿摔断了。邻居们听说了,都来看望他的儿子,并且安慰老人。老人说:“谢谢你们。但我是这样想的:虽然这是件祸事,但说不定又会给我们带来福气呢!”
不久,战争爆发了,年轻力壮的人都被抓去当兵,老人的儿子因为腿上有伤,就不用上战场了,他因此保住了一条性命.从那儿以后, 父子俩过上了平静的生活.
后来,便有了 “塞翁失马,安知非福”的说法. 意思是说边赛上的老人丢了一匹马, 怎么知道它不是好事呢? 很多时候就是这样,没有绝对的好事,也没有绝对的坏事.
(据  准南子. 人间训 )
生词:
翁       wēng ผู้เฒ่า, ชายแก่
边塞   biān-sài  ชายแดน
养       yăng เลี้ยง (สัตว์)
匹       pī ลักษณะนามของม้า (ตัว)
安慰    ān-wèi ปลอบใจ
悲伤    bēi-shāng เศร้าเสียใจ
反而    făn’ér ในทางตรงกันข้าม, กลับกัน
骏马    jùn-mă ม้าลักษณะดี งามองอาจ
祝贺    zhù-hè อวยพร, แสดงความยินดีด้วย
拼命    pīn-mìng สุดชีวิต
控制    kòng-zhì ควบคุม
摔       shuāi หก, ล้ม, ตก (ลงมา)
断       duàn หัก, แตก
看望    kàn-wàng เยี่ยมเยือน
祸事    huò-shì  อุบัติเหตุ
战争    zhàn-zhēng สงคราม, การรบ
爆发    bào-fā  ปะทุขึ้นมา, พลุ่งพล่านขึ้นมา
年轻力壮  nián-qīng-lì-zhuàng อายุเยาว์และแข็งแกร่งกำยำ
抓        zhuā จับ
当兵   dāng-bīng ไปเป็นทหาร
战场   zhàn-chăng สนามรบ
保       băo   รักษาไว้
性命   xìng-mìng  ชีวิต
绝对   juè-duì  เด็ดขาด
จากหนังสือเรียน 阅读与写作教程[I] 初级


ด้านล่างต่อไปนี้ ผู้เขียนคัดลอกมาจากหนังสือ
มังกรสอนใจ เข้าใจว่าเป็นนิทานเรื่องเดียวกันค่ะ
ผู้เฒ่าซ่าย เสียม้า
ผู้เฒ่าซ่าย เป็นคนที่เข้าใจโลกและชีวิตมากคนหนึ่ง เขามีความเห็นว่า เรื่องราวบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นโชคดีโดยเด็ดขาดและก็ไม่มีอะไรที่เป็นโชคร้ายโดยสิ้นเชิง ทุกอย่างจะต้องมองทั้งสองด้านเสมอ ดังนั้น เมื่อเขาพบกับเคราะห์ร้ายก็ไม่เศร้าโศก เมื่อพบกับโชคดีก็ไม่ดีอกดีใจจนเกินไป มีท่าทีต่อเรื่องต่างๆ ที่ตนประสบพบด้วยความสงบนิ่ง
มีอยู่วันหนึ่ง ม้าตัวหนึ่งของเขาวิ่งหายไป เพื่อนฝูงของเขาเมื่อรู้ข่าวต่างก็พากันมาเยี่ยมปลอบใจเขา แต่ผู้เฒ่าซ่ายกลับตอบว่า “ขอบคุณทุกท่านที่มีน้ำใจแต่ทว่าข้าพเจ้าไม่รู้สึกเสียใจด้วยเรื่องนี้ เสียม้าไปแล้วไม่แน่อาจเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่งก็ได้”
ผ่านไปไม่กี่วัน เจ้าม้าตัวนั้นได้กลับมาเอง และยังพาม้าพันธุ์ดีอันล้ำค่ามาด้วยอีก 1 ตัว เพื่อนฝูงเมื่อทราบข่าวต่างพากันมาแสดงความยินดี แต่เขาพูดว่า “ไม่มีอะไรที่มีคุณค่าจนจำเป็นต้องแสดงความยินดี ได้ม้ามาอีกตัว ไม่แน่อาจเป็นคราวเคราะห์อย่างหนึ่งก็ได้”
ลูกชายของผู้เฒ่าซ่ายชอบม้าพันธุ์ดีตัวนั้นมาก มักขี่ออกไปเที่ยวเล่นเสมอ ม้าตัวนั้นก็วิ่งเร็วมาก มีอยู่คราวหนึ่ง ลูกชายของผู้เฒ่าซ่ายตกจากหลังม้าจนขาพิการข้างหนึ่ง เพื่อนฝูงของผู้เฒ่าซ่ายทราบข่าวนี้ ต่างพากันมาแสดงความเสียใจกับเขา ผู้เฒ่าซ่ายกลับพูดตอบเพื่อนๆ ด้วยท่าทีสงบเยือกเย็นอย่างยิ่งว่า
“ขาพิการไปข้างหนึ่ง ถึงที่สุดแล้ว เป็นเรื่องเคราะห์ร้ายหรือโชคดี ยังตัดสินยาก”
ต่อมาภายหลังไม่นาน เกิดสงครามระหว่างประเทศจีนกับชนเผ่าหู ชายฉกรรจ์ทั้งประเทศต่างก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารปกป้องประเทศ สงครามคราวนั้นรบกันอย่างดุเดือดติดพันยาวนาน แต่ลูกชายของผู้เฒ่าซ่ายเนื่องจากขาพิการจึงไม่ต้องไปเป็นทหาร พำนักอยู่ในบ้านดำเนินชีวิตอย่างสงบสุข
สาธุชนทั้งหลาย...
สรรพสิ่งในโลกล้วนไม่เที่ยง มีขึ้นมีลงอยู่ตลอดเวลา มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ สรรเสริญ นินทา สุข ทุกข์   โลกธรรมทั้ง 8นี้ ต่างก็หมุนเวียนเปลี่ยนไป โบราณจึงบอกว่า  “เมื่อเจอเรื่องดีใจก็ให้ยิ้มเพียงมุมปากเดียว อย่าถึงกับห้วเราะฮาๆ ไม่อย่างนั้น ถึงคราวพบเรื่องเสียใจจะต้องร้องไห้โฮๆ”และเมื่อเราพบความยากลำบาก ก็ขออย่าท้อถอย ให้ถือคติว่า ยิ่งมืดยิ่งดึก ยิ่งดึกก็ยิ่งใกล้สว่าง กัดฟันทำงานค่อยๆ แก้ปัญหาไปทีละเปลาะด้วยใจที่เยือกเย็น มั่นคง ยึดมั่นความดี มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง สุดท้ายปัญหาก็จะคลี่คลายไป เรื่องร้ายจะกลายเป็นดีในที่สุด
ภูเขาศิลาล้วนย่อมตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวเพราะแรงลมฉันใด ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น (พุทธพจน์)

建议 โพสต์แนะนำ

สำนวนจีน VS สำนวนไทย Part 5 [W]

สำนวนจีนที่ขึ้นต้นด้วยพินอิน w  挖墙脚  [wāqiángjiǎo]  โค่นล้ม (比喻拆台) 外强中干  [wàiqiángzhōnggān]  แข็งนอกอ่อนใน/ภายนอกดูแข็งแรงแท้จริงแล้วอ่อนแอ ...