11/30/2557

大哥大 ระดับหัวแถว

คำแสลง
大哥大 (dà gē dà): คน หรือสิ่งของที่ดีที่สุด, ระดับหัวแถวหรือ ชั้นนำ

大哥 แปลว่าพี่ใหญ่ พี่เบิ้ม ส่วน 大 คำที่สองหมายถึง (โทรศัพท์มือถือ) ใหญ่ เนื่องจากโทรศัพท์มือถือรุ่นแรกๆ มีขนาดใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มและหนังฮ่องกงมักมีฉากที่พวกมาเฟีย (พี่ใหญ่) ใช้โทรศัพท์มือถือขนาดใหญ่พูดคุยกัน ดังนั้น คำว่า โทรศัพท์มือถือในภาษาจีนมีอีกชื่อหนึ่งว่า 大哥大 ซึ่ง เป็นความหมายเดิมและความหมายแรกของคำว่า 大哥大 แต่ต่อมานิยมใช้คำว่า 手提电话 (shŏu tÍ diàn huà) หรือ 手机 (shŏu jī)

หลังจากนั้นไม่นาน คำว่า 大哥大 แผลงความหมายอีกอย่างเป็นคำแสลง หมายถึงคนหรือสิ่งของที่ดีที่สุด, ระดับหัวแถวหรือชั้นนำ ยกตัวอย่างเช่น

这种数码相机是目前同类产品中的大哥大。
 zhè zhŏng shù mă xiàng jī shì mù qiàn tong lèi chăn pĭn zhōng de dà gē dà.
 ปัจจุบันนี้ กล้องถ่ายรูปดิจิทัลชนิดนี้เป็นผลิตภัณฑ์ชั้นนำในผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกัน

เครดิต หนังสือ “เรียนจีนอ่านจีน จุ๊กจิ๊กจอจีนเล่ม 2”
 _/\_ 谢谢อาจารย์เหยินจิ่งเหวิน ค่ะ

Credit: 图片来自: "彭于晏的相册"

11/19/2557

吃香 เนื้อหอม

吃香 chī xiāng เนื้อหอม / เป็นที่ต้องการ / ได้รับความนิยม หรือได้รับความสำคัญ
吃 chī กินหรือรับประทาน
香 xiāng หอม อร่อย

ตัวอย่าง

1. 这种产品在泰国很吃香.
    Zhè zhŏng chăn pĭn zài Tàiguó hěn chī xiāng.
    ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย

2. 复古服饰再度吃香时尚界.
    Fù gŭ fú shì zài dù chī xiāng shÍ shàng jiè
    เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายย้อนยุค ได้รับความนิยมในวงการแฟชั้นอีกครั้ง

3. 她是当今最吃香的电视节目主持人.
    Tā shì dāng jīn zuì chī xiāng de diàn shì jié mù zhŭ chÍ rén
    เธอเป็นพิธีกรรายการโทรทัศน์ที่เนื้อหอมที่สุดในเวลานี้

4. 电脑人才在劳工市场上越来越吃香.
    Diàn năo rén cái zài láo gōng shì chăng shàng yuè lái yuè chī xiāng
   บุคลากรทางคอมพิวเตอร์นับวันยิ่งเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน


จากหนังสือ ศัพท์จีนนอกตำรา
อาศรมสยาม-จีนวิทยา
图片来自 Eddie Peng 彭于晏网络

11/07/2557

有话好好说


 วลี 有话好好说
yŏu huà hăo hăo shuō :มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากัน


ตัวอย่างประโยค

我再也受不了他了!
Wŏ zài yě shòu bù liăo tā le.
ฉันทนเขาไม่ไหวแล้วนะ

有话好好说。
yŏu huà hăo hăo shuō
มีอะไรก็ค่อยพูดค่อยจากัน


เครดิตหนังสือ 365 วลีฮิต
ครูปอนด์ เขียน

10/20/2557

เทพนาจา



นาจา หรือ หน่าจา (อังกฤษ: Na Zha, Ne Zha, จีน: 哪吒, พินอิน: Nézhā หรือ Núozhā, ญี่ปุ่น: ナタ太子) เทพเจ้าตามคติความเชื่อของจีน บางตำราเชื่อว่าเป็นบุตรของเจ้าแม่กวนอิมอีกด้วย
เดิมนาจาเป็นเทพที่อยู่บนสวรรค์มีชื่อว่า หลิน จินจื่อ เป็นบุตรของเทพเจดีย์ แต่ด้วยโลกมนุษย์มีปีศาจมาก ทางสวรรค์จึงส่ง หลิน จินจื่อ มาจุติยังโลกมนุษย์ในยุคราชวงศ์ซาง ในตระกูลหลี่ (李) ประสูติเมื่อวันที่ 9 เดือน 9 เป็นบุตรของแม่ทัพหลี่ (หลี่จิ้ง) และ นางฮึ่นสี ขณะที่ตั้งท้องอยู่นั้น แม่ทัพหลี่ ได้ถูกส่งให้ไปออกรบ ประมาณ 1 ปี กับอีก 6 เดือน เมื่อแม่ทัพหลี่กลับมา ภรรยาก็คลอดบุตรพอดี แต่กลับเป็นลูกแก้ว จึงเข้าใจว่าเป็นปีศาจ แม่ทัพหลี่โกรธมาก จึงใช้กระบี่ฟันไปที่ลูกแก้ว เมื่อลูกแก้วแตกก็เห็นเด็กผู้ชายหน้าตาน่ารักนอนอยู่บนผ้าแพร และมีห่วงทองอยู่ที่ตัวด้วย

นาจาในวัยเด็กเป็นเด็กที่ซนมากและไม่กลัวใคร วันหนึ่ง นาจาไปเล่นน้ำทะเล ด้วยเป็นเด็กจึงเอาผ้าเหวี่ยงเล่นที่น้ำ จึงทำให้ใต้บาดาลสะเทือน เจ้าสมุทร จึงสั่งให้ ทหารออกมาดู ก็เห็นเด็กกำลังเล่นน้ำอยู่ จึงเข้าไปขู่ นาจาจึงใช้ผ้าเหวี่ยง เพื่อไล่ให้ไปแต่ปรากฏว่าถูกตัวทหารทำให้ทหารของเจ้าสมุทรตาย ต่อมา ลูกเจ้าสมุทรเห็นว่านานแล้ว ทหารยังไม่มารายงานจึงขึ้นตามมาดูก็เห็นทหารตายอยู่ และมีเด็กกำลังเล่นน้ำอยู่ จึงเข้าไปขู่ แต่ก็ถูกผ้าแพรเหวี่ยงตายเช่นกัน ทหารก็ไปรายงานเจ้าสมุทร เจ้าสมุทรโกรธมาก จึงไปหา แม่ทัพหลี่ และบอกว่าลูกของท่านได้ฆ่าลูกของตน และเจ้าสมุทรจะเอาน้ำทะเล มาถล่มเมือง พอนาจาได้ยินรุ่งเช้า จึงไปเมืองบาดาลและถลกเส้นเอ็นมังกรและเสกมังกรให้เป็นงูเขียว แล้วเดินทางกลับบ้าน

เมื่อกลับถึงบ้าน แม่ทัพหลี่ก็ดุด่านาจาว่าเจ้าสมุทรโกรธมาก และจะถล่มเมือง พระนาจาจึงเอาเส้นเอ็นออกมาให้พ่อดู แล้วบอกว่า เส้นเอ็นนี้เอามาให้พ่อทำเสื้อเกราะ แล้วเจ้าสมุทรก็อยู่ที่ตัว นาจาก็ขว้างงูเขียวออกมา เห็นเป็นเจ้าสมุทร แม่ทัพหลี่โกรธมากจึงดุด่านาจา จนในที่สุด นาจาน้อยใจจึงแล่เนื้อคืนแม่ และแล่กระดูกคืนพ่อ จากนั้นจึงเข้าฝัน บอกให้แม่ทำศาลบูชาให้ แล้วนาจาจะได้ชุบชีวิตขึ้นมาใหม่ แม่ทัพหลี่ทราบเรื่องก็ตามไปทำลายศาล นาจาจึงโกรธมากและคิดที่จะฆ่าพ่อ

เมื่อนาจาตายไปแล้วจึงหอบวิญญาณของตนไปพบเซียนซือจุน เซียนซือจุนเห็นว่า นาจามีความสามารถในการปราบมารปีศาจ จึงได้ชุบชีวิตให้กับนาจาโดยใช้ก้านบัวแทนกระดูก รากบัวแทนเนื้อ ใยบัวแทนเอ็น และใบบัวแทนเสื้อผ้าอาภรณ์ขึ้นมาใหม่

ดังนั้น รูปลักษณ์ของนาจา จะปรากฏให้เห็นเป็นรูปของเด็กผู้ชายเหยียบวงล้อไฟ มือถือหอกและห่วงเป็นอาวุธ มีอิทธิฤทธิ์เหาะเหินเดินอากาศได้ปราบมารปีศาจได้ ต่อมาภายหลังเง็กเซียนฮ่องเต้ทรงแต่งตั้งให้เป็น "จงตั๋นหง่วนโส่ย" หรือ "จงตั๋นเหยียนฟู่" (中壇元帥) แม่ทัพแห่งสวรรค์ ทำหน้าที่ปกป้องประตูสวรรค์ เช่นเดียวกับ เอ้อหลางเสิน หรือ เทพสามตา
นาจาในความเคารพและในสื่อร่วมสมัย

ปัจจุบัน นาจาเป็นหนึ่งในเทพเจ้าของจีนที่ชาวจีนรวมทั้งชาวไทยเชื้อสายจีนให้การเคารพนับถือ โดยมีศาลหลายแห่งปรากฏอยู่ตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิ ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ที่อำเภอเมือง จังหวัดชลบุรี เป็นต้น[2]

นาจา ยังปรากฏในบทประพันธ์เรื่อง ไซอิ๋ว อีกด้วย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสี่สุดยอดวรรณกรรมจีน ด้วยการเป็นแม่ทัพสวรรค์ที่พ่ายแพ้ต่อหงอคง เมื่อครั้งหงอคงมาอาละวาดที่สวรรค์ เช่นเดียวกับ เอ้อหลางเสิน
เรื่องราวของนาจาได้ถูกสร้างในวัฒนธรรมร่วมสมัยหลายอย่าง

ข้อมูลจาก สารานุกรม วิกิ พีเดีย

诸葛亮 จูเก๋อเลี่ยง

จูกัดเหลียง (อังกฤษ: Zhuge Liang; จีนตัวย่อ: 诸葛亮; จีนตัวเต็ม: 諸葛亮; พินอิน: Zhūge Liàng)







หรือ ขงเบ้ง (孔明, พินอิน: Kǒngmíng) เป็นตัวละครในวรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่องสามก๊กที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ยุคสามก๊ก นอกจากนี้ยังมีฉายาอื่นเช่น มังกรหลับ (臥龍先生) หรือ (伏龍) เป็นนักการเมืองสมัยปลายราชวงศ์ฮั่นของจีน หรือในสมัยหลังราชวงศ์ฮั่นหากกล่าวอ้างอิงตามประวัติศาสตร์

จูกัดเหลียงดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านการยุทธนาการของพระเจ้าเล่าปี่ในตำแหน่งสมุหนายกและผู้บัญชาการทหารสูงสุดแห่งจ๊กก๊ก รวมทั้งมีความสามารถในด้านการเมือง การทูต นักปราชญ์ วิศวกรและได้ชื่อว่าเป็นผู้ประดิษฐ์คิดค้นที่สำคัญ โดยคิดค้นหมั่นโถว หน้าไม้กล โคมลอยและระบบชลประทาน

ศิลปินมักวาดภาพให้จูกัดเหลียงสวมชุดยาวแบบนักปราชญ์ สวมหมวก และถือพัดขนนกกระเรียน (บ้างก็ว่า ขนนก ขนห่าน) อยู่ในมือเสมอ
ขงเบ้ง มีชื่อจริงว่าจูกัดเหลียง เป็นบุตรชายคนที่ 2 ของจูกัดฟ่ง ขุนนางตงฉินของพระเจ้าเหี้ยนเต้ จูกัดเหลียงมีพี่ชายและน้องชายอย่างละคนคือ จูกัดกิ๋นพี่ชาย เป็นที่ปรึกษาของง่อก๊กและน้องชายจูกัดจิ้น จูกัดเหลียงมีอุปนิสัยและความคิดที่ฉลาดปราดเปรื่อง รอบรู้สรรพวิชาอย่างแตกฉานทั้งวิทยาศาสตร์ โหราศาสตร์ การเมืองการปกครอง การทูต คุณธรรม ใจคอเยือกเย็นมีเมตตา ชอบอวดอ้างและลองดีกับผู้ที่มีนิสัยกล่าวโอ้อวดตนเอง อุดมด้วยวาทะศิลป์ ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบกับชาวบ้านที่เชิงเขาโงลังกั๋ง โดยช่วยเหลือชาวบ้านในการทำนาต่าง ๆ จนเป็นที่นับถือของชาวบ้าน

จูกัดเหลียงมักจะเสวนากับผู้รู้เสมอ ๆ โดยเพื่อนร่วมวงเสวนากับเขานั้นได้แก่ ชีซี หรือ ตันฮก (ชื่อตันฮกใช้ในการหลบหนี) สื่อกวงเหวียน (โจ๊ะก๋งหงวน) เมิ่งกงเวย (เบงคงอุย) และซุยโจวผิง ซุยเป๋ง และจูกัดเหลียงมักจะยกตัวเองเทียบกับขวันต๋งและงักเย สองยอดนักปราชญ์ยุคชุนชิวและราชวงศ์ฉิน ซึ่งเพื่อน ๆ มักแปลกใจที่จูกัดเหลียงกล้ายกตนเช่นนั้น มีแต่ชีซีและซุยเป๋งเท่านั้นที่เชื่อว่าไม่ได้เป็นการยกตนเกินเลยไปเลย ยิ่งไปกว่านั้นยอดปราชญ์แห่งสามก๊กอย่างอาจารย์สุมาเต๊กโช ยังยกย่องว่าไม่เพียงแค่เปรียบได้กับGuan Zhongขวันต๋งและYue Yiงักเยเท่านั้น ยังเปรียบได้กับเจียงไท่กง คนตกปลาอายุร่วม 80 ผู้หนุนราชวงศ์จิวและเตียงเหลียงผู้หนุนราชวงศ์ฮั่นอีกด้วย ทำให้รู้ว่านอกจากจูกัดเหลียงจะเป็นผู้ฉลาดปราดเปรื่องแล้วยังเป็นผู้มีความจงรักภักดีเป็นอย่างมาก

จูกัดเหลียงมาเป็นที่ปรึกษาให้แก่เล่าปี่จากการได้รับคำแนะนำจากชีซี และคำกล่าวยกย่องจูกัดเหลียงและบังทองจากสุมาเต๊กโช ซึ่งถ้าเล่าปี่ได้บุคลหนึ่งในสองนี้เป็นที่ปรึกษา จะสามารถทำการใหญ่กอบกู้แผ่นดินได้สำเร็จ โดยเล่าปี่ต้องดั้งด้นเดินทางท่ามกลางอากาศหนาวเย็น และเข้าคำนับผิดคนที่มีท่าที่และการเจรจาที่ฉลาดเฉลียวมาตลอดเส้นทางด้วยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นจูกัดเหลียง เล่าปี่มาหาจูกัดเหลียงด้วยใจศรัทธาถึงกระท่อมไม้ไผ่ที่เขาโงลังกั๋ง ถึง 3 ครั้ง 3 คราก็ไม่พบตัวจูกัดเหลียงแม้แต่ครั้งเดียว

จูกัดเหลียงเป็นผู้ชอบลองนิสัยของบุคคล ยิ่งเห็นเล่าปี่ศรัทธาในตนยิ่งนักจึงแกล้งลองใจเล่าปี่ด้วยการหลบออกจากบ้าน และแกล้งให้เด็กรับใช้แจ้งแก่เล่าปี่ว่าตนไม่อยู่บ้าน และครั้งสุดท้ายบอกว่าตนนอนหลับ เล่าปี่ก็ไม่ละความพยายามในความอุตสาหะที่จะเชิญตัวจูกัดเหลียงไปอยู่ด้วย เมื่อจูกัดเหลียงนอนหลับจึงมายืนสงบที่ปลายเท้าด้วยกิริยาสำรวมรอคอยจนกระทั่งจูกัดเหลียงตื่น และได้สนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกัน เล่าปี่เอ่ยปากเชิญจูกัดเหลียงไปอยู่ด้วยกันเพื่อกิจการบ้านเมือง จูกัดเหลียงเห็นความมานะพยายามของเล่าปี่รวมทั้งอุปนิสัยใจคอและการเป็นคนอาภัพวาสนา จึงยอมไปอยู่ด้วย ซึ่งขณะนั้นจูกัดเหลียงมีอายุได้เพียง 26 ปีเท่านั้น

เมื่อจูกัดเหลียงไปอยู่ด้วยกับเล่าปี่ ซึ่งได้รับการเอาใจใส่ดูแลและให้การเคารพนับถือเช่นอาจารย์ ทำให้จูกัดเหลียงมิได้เป็นที่ยอมรับของบรรดานายทหารจ๊กก๊ก รวมทั้งกวนอูและเตียวหุยด้วย แต่เมื่อจูกัดเหลียงได้แสดงฝีมือให้ปรากฏด้วยการใช้ไฟทำลายทัพของแฮหัวตุ้น แม่ทัพเอกของโจโฉที่เนินพกบ๋องแล้ว และโจหยิน จูกัดเหลียงก็กลายเป็นที่นับถือและเลื่องลือถึงความสามารถอันปราดเปรื่อง
ข้อมูล: วิกิพีเดีย
ภาพ:  baidu.tupian.com

建议 โพสต์แนะนำ

สำนวนจีน VS สำนวนไทย Part 5 [W]

สำนวนจีนที่ขึ้นต้นด้วยพินอิน w  挖墙脚  [wāqiángjiǎo]  โค่นล้ม (比喻拆台) 外强中干  [wàiqiángzhōnggān]  แข็งนอกอ่อนใน/ภายนอกดูแข็งแรงแท้จริงแล้วอ่อนแอ ...