4/02/2557

不同等对待 การเลือกปฏิบัติ

“การเลือกปฏิบัติ” 怎么翻译 แปลอย่างไร



นักเรียน : ครูครับ “การเลือกปฏิบัต” พวกผมแปลว่า “选择的做法” xuăn zé de zuò fă ถูกต้องไหมครับ?

ครู :       นักเรียนแปลไม่ถูกต้องเลยค่ะ

นักเรียน:ถ้าแปลว่า “选择性的执行”xuăn zé xìng de zhí xíng ได้ไหมครับ

ครู:         ต้องแปลว่า “不同等对待” bù tóng dĕng duì dài จึงจะสื่อความหมายได้ถูกต้องนะคะ

นักเรียน:   ทำไมแปลยากจังละครับ แล้วคำว่า “对待”duìdài หมายความว่าอะไรครับ

ครู:         หมายความว่า “ปฏิบัติ” ค่ะ คือคำว่า “执行”zhí xíng ในภาษาจีน มักหมายถึงการปฏิบัติตามหลักการหรือกฏหมายเป็นต้น คำว่า “对待”จึงจะหมายถึงการปฏิบัติหรือการกระทำต่อคนค่ะ ทีนี้นักเรียนลองแปลประโยค “เธอทำกับเพื่อนอย่างนี้ได้อย่างไร” สักหน่อยซิ

นักเรียน :   แปลว่า “你怎么可以这样对待朋友? ครับ



จากห้องเรียนวิชาแปล 翻译室
โดย 知之/จือจือ
หนังสือ 汉语双语 จีน ไทยสองภาษา 

3/29/2557

中国的传统服饰 เสื้อผ้าจีนโบราณ

中国的传统服饰 เสื้อผ้าจีนโบราณ


ทุกๆ ชนชาติมีเสื้อผ้าอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งแสดงถึงความเป็นมาทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ประเทศจีนเองก็มีเสื้อผ้าโบราณเช่นเดียวกัน

เสื้อผ้าชาวจีนถึงจุดเปลี่ยนที่น่าสนใจในสมัยราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสต์ศักราช = คริสต์ศักราช 220)  ในช่วงนี้กระบวนการทอผ้า การย้อม การเย็บปักถักร้อยมีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว สิ่งนี้กระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงในด้านการประดับตกแต่งเสื้อผ้าจีน ต่อมาในแต่ละราชวงศ์ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและเอกลักษณ์ของเสื้อผ้าตามแบบฉบับของตน




เสื้อผ้าจีนในสมัยโบราณคือเครื่องบ่งบอกถึงสถานะ ใช้แสดงถึงสถานะทางการเมืองและสังคมของแต่ละบุคคล ซึ่งมีกฏเกณฑ์และข้อจำกัดในเรื่องเสื้อผ้า รูปแบบ สี และวิธีการตัดเย็บ ทุกคนจะมีสถานะแน่ชัดจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ตั้งแต่จักรพรรดิไปจนถึงชาวนาผู้ยากไร้ และไม่มีผู้ใดสามารถก้าวข้ามสิทธิของตนเองไปได้ ดังเช่น สีเหลือง เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงสีของแผ่นดิน ดังนั้นการสวมใส่เสื้อผ้าสีเหลือง จึงหมายถึง “ผู้เป็นเจ้าของแผ่นดินและปกครองประเทศ” ด้วยเหตุนี้ เสื้อผ้าสีเหลืองจึงสามารถใส่ได้เฉพาะจักรพรรดิองค์เดียวเท่านั้น ในทางตรงกันข้าม คนธรรมดาสามัญได้รับการอนุญาตให้ใส่เสื้อผ้าที่ทำจากผ้าลินิน และย้อมเป็นโทนสีน้ำตาลซึดๆ เท่านั้น


กี่เพ้า เสื้อแจ็กเกตแบบจีน และเสื้อคลุมยาว
เสื้อผ้าของจีนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในปัจจุบันคือ กี่เพ้า 旗袍 (qí páo – ฉีผาว) และเสื้อแจ็กเกตแบบจีน กับเสื้อคลุมยาว หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เสื้อคลุมยาวแบบจีน 长袍马褂 (cháng páo mă guà – ฉางผาวหม่ากว้า) จากการศึกษาว่าชาวจีนเคยแต่งตัวอย่างไรนั้น ทำให้เราเข้าใจวัฒนธรรมทั่วไปของชาวจีนมากยิ่งขึ้น


กี่เพ้าปรากฏครั้งแรกช่วงแมนจูรุกรานจีนในศตวรรษที่ 17 เวลานั้นผู้หญิงทุกคนถูกบังคับให้สวมกี่เพ้า ช่วงแรกชุดกี่เพ้าจะเรียบง่าย หลวม และแตกต่างจากปัจจุบันมาก แต่เมื่อถึงปลายสมัยราชวงศ์ชิง (1644 – 1911) แขนเสื้อและเอวของกี่เพ้าแคบลง

การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของชุดกี่เพ้าเกิดขึ้นในช่วงปี คศ. 1940 – 1949 เพราะได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมตะวันตก ทำให้ชุดกี่เพ้ามีขนาดเล็กลงเพื่อเน้นสัดส่วนของผู้หญิงมากขึ้น ปัจจุบันผู้หญิงทั่วโลกนิยมใส่ชุดกี่เพ้าในพิธีการต่างๆ และมักจะใช้เป็นชุดราตรีและชุดแต่งงานอีกด้วย
ผู้ชายในสมัยราชวงศ์ชิงจะสวมชุดประจำชาติแบบโบราณ ที่พบเห็นทั่วไปคือ เสื้อแจ๊กเกตแบบจจีน และเสื้อคลุมยาว ซึ่งยังคงพบเห็นได้ในปัจจุบัน เนื่องจากได้รับความนิยมจากชาวตะวันตกเป็นอย่างมาก


ขอบพระคุณข้อมูลจากหนังสือ สวัสดีหนีห่าว 7

3/18/2557

ประกาศรับสมัครทุนขงจื่อ ปี 2014

สถาบันขงจื่อ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประกาศรับสมัครทุนขงจื่อ ประจำปี 2014 ดังรายละเอียดด้านล่างค่ะ

http://www.ci.cmu.ac.th/tha/show_th.php?news=466























 

2/22/2557

相声



相声(xiàngshēng – การสนทนาตลกขบขันของจีน)

คือ การแสดงตลกตามประเพณีดั้งเดิมของจีน ซึ่งอาศัยทักษะ 4 อย่าง ได้แก่ การพูด (说 shuō ซัว)

การเลียนแบบ (学 xué เสวียะ) การหยอกล้อ (逗 dòu โต้ว) และการร้องเพลง (唱 chàng ชั่ง)

相声 สามารถแบ่งก
ารแสดงออกเป็นแบบพูดคนเดียว แบบสนทนาโต้ตอบ และแบบละครสั้น โดยการแสดงแบบสนทนาโต้ตอบเป็นประเภทที่นิยมกันมากที่สุด

ตามประเพณีที่ปฏิบัติมา 相声 จะแสดงเป็นลำดับขั้นตอน คือ เมื่อนักแสดงขึ้นเวที นักแสดงทั้งหลายจะต้องแนะนำตนเอง และคำนับผู้ชมพร้อมทั้งพูดว่า “上台一鞠躬 shàngtái yì jūgōng” (ซั่งไถอี้จวีกง) แล้วการแสดงก็จะเริ่มขึ้น เมื่อการแสดงสิ้นสุดลง นักแสดงจะแจ้งชื่อของตนเองอีกครั้ง โค้งคำนับ พร้อมทั้งพูดว่า “下台一鞠躬 xiàtái yì jūgōng (เสี้ยไถอี้จวีกง)

เนื่องจาก 相声 จัดเป็นศิลปะพื้นบ้าน ภาษาที่ใช้จึงเป็นภาษาพูดมากกว่า
ภาษาในบทเรียน เราใช้คำอุทานธรรมดา เช่น 嗯 (ēn เอิน), 哦 (ó อ๋อ), 喝(hē เฮอ),

哎呀 (ài ya ไอ้ยา), และ 天哪 (tiān na เทียนน่ะ) เพื่อทำให้ภาษาเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น







เครดิตหนังสือ สวัสดีหนีห่าว 2

2/16/2557

月光族 พวกใช้เงินชนเดือน

你是 [月光族] 吗?
Nĭ shì  [yuè guāng zú] ma? หนี่ซื่อเยว่กวงจู๋ม่ะ?
คุณเป็น “พวกใช้เงินชนเดือน” หรือเปล่า


月光族 คือ “พวกใช้เงินชนเดือน” คำว่า 月光 มีความหมายตามตัวอักษรว่า แสงจันทร์ แต่เมื่อใช้ร่วมกับคำว่า 每月花光 (měi yuè huā guāng –ใช้เงินชนเดือน) จึงกลายเป็นความหมายใหม่ ส่วนคำว่า 族 หมายถึง กลุ่มคน ดังนั้น 月光族 จึงหมายถึงกลุ่มคนที่ใช้เงินในแต่ละเดือนจนหมดเกลี้ยง เราจึงมักใช้คำว่า 月光族 ในการวิพากษ์วิจารณ์วัยรุ่นยุคใหม่ ซึ่งมีมุมมองในการใช้เงินแตกต่างจากรุ่นพ่อแม่ คนกลุ่มนี้จะไม่ออมเงิน รักสนุก และแต่งตัวตามแฟชั่น 月光族 จึงเป็นพวกที่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย




ในภาษาจีน เรามักจะเรียกผู้คนที่มีลักษณะนิสัยเหมือนกันว่า  “………..族” ตัวอย่าง เช่น
草莓族 căoméizú เฉ่าเหมายจู๋:  草莓 เฉ่าเหมย หมายถึง สตรอเบอรี่ คำนี้ใช้เพื่อบรรยายถึงพวกวัยรุ่นที่ดูดี แต่อ่อนแอและเปราะบาง

啃老族 kěn lăo zú เขินเหล่าจู๋ หมายถึง พวกที่โตพอและน่าจะดูแลตัวเองได้แล้ว แต่กลับยังต้องพึ่งพาผู้ปกครอง
飞特族 fēi tè zú เฟยเท่อจู๋ หมายถึง พวกที่ไม่มีอาชีพการงานที่มั่นคง แปลมาจากคำว่า “Freeter” หมายถึง พวกทำงานอิสระ ซึ่งเกิดจากการนำคำว่า “free” ในภาษาอังกฤษ และคำว่า “arbeiter” ในภาษาเยอรมันที่แปลว่า “คนงาน” มารวมกัน





เครดิต หนังสือ สวัสดีหนีห่าว 7
 

建议 โพสต์แนะนำ

สำนวนจีน VS สำนวนไทย Part 5 [W]

สำนวนจีนที่ขึ้นต้นด้วยพินอิน w  挖墙脚  [wāqiángjiǎo]  โค่นล้ม (比喻拆台) 外强中干  [wàiqiángzhōnggān]  แข็งนอกอ่อนใน/ภายนอกดูแข็งแรงแท้จริงแล้วอ่อนแอ ...