7/17/2556

“上有天堂,下有苏杭”。


เคยเห็นตัวอย่างข้อสอบ Pat7.4 และ HSK หลายๆ ชุดที่ปรากฏประโยคนี้เป็นคำถามอยู่บ่อยๆ

“上有天堂,下有苏杭”。
shàng-yŏu-tiān-táng, =xià-yŏu-Sū-háng
ความหมายเป็นเช่นไรกันแน่ มาหาคำตอบกันค่ะ

จากหนังสือ “จุ๊กจิ๊กจอจีน” ซึ่งเขียนโดยอาจารย์เหยินจิ่งเหวิน ได้เขียนอธิบายในหัวข้อ “ถ้าชีวิตเลือกเกิดได้" คนจีนทุกคนก็คงอยากจะ  生在苏州 长在杭州 (เกิดที่ซูโจว โตที่หังโจว) กันหมด เป็นเพราะอะไร
 
苏州 (Sū-zhōu ซูโจว) กับ 杭州 (Háng-zhōu หังโจว) ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีน สองเมืองนี้ขึ้นชื่อมากในเรื่องทิวทัศน์ที่สวยงามและความอุดมสมบูรณ์ในฐานะเป็น 鱼米之乡 (yú-mĭ-zhī-xiāng อู่ข้าวอู่น้ำ) ที่สำคัญของจีน จนถูกขนานนามว่า
上有天堂,下有苏杭。
shàng-yŏu-tiān-táng xià-yŏu-Sū-háng
"บนฟ้ามีสวรรค์ บนโลกมีซูโจวกับหังโจว"

แถบนี้การค้าเจริญรุ่งเรืองตั้งแต่สมัยโบราณ สินค้าขึ้นชื่อมีพวก 绫罗绸缎 (ling-luó-chóu-duàn ผ้าไหมผ้าแพร) จนบางครั้งกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า 穿在杭州 (chuān-zài-Háng-zhōu แต่งตัวที่หังโจว) เพราะคนมีฐานะเท่านั้นที่มีวาสนาใส่เสื้อผ้าไหมแพรที่ทำจากที่นี่ มันโก้หรูเสียไม่มี

นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องรับรู้ไว้ด้วยโดยเฉพาะคุณสุภาพบุรุษทั้งหลาย เพราะแถบนี้เป็นแหล่งสาวสวยที่ขึ้นชื่อลือชาของจีนตั้งแต่โบราณ แหม ก็กินดีอยู่ดี แต่งตัวดีๆ อยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่สวยงาม บรรดาสาวๆ ไม่สวยก็ไม่รู้จะไปโทษใครแล้ว





เครดิต หนังสือ จุ๊กจิ๊กจอจีน
ของอาจารย์ เหยินจิ่งเหวิน


“早睡早起身体好”

จีนมีคำพูดอยู่ว่า

“早睡早起身体好” Zăo shuì zăo qĭ shēntĭ hăo
 เจ่าซุ่ยเจ๋าฉี่เซินถี่ห่าว = นอนเร็วตื่นเร็วสุขภาพจะดีนะคะ




早 zăo เจ่า = เช้า, เร็ว
 睡 shuì ซุ่ย = นอน
 起 qĭ ฉี่ = ตื่น, ลุก
 身体 shēntĭ เซินถี่ = ร่างกาย
 好 hăo ห่าว = ดี

รู้ทั้งรู้ว่าการนอนแต่หัววัน และตื่นแต่เช้ามันดียังไง แต่บางครั้งคนเราก็
 说起来容易, 做起来难
 shuō qĭ lái róngyì , zuò qĭ lái nán
 ซัวฉี่ไหลหรงอี้ จั้วฉี่ไหลหนัน = พูดน่ะง่าย แต่ทำยากค่ะ

ยังไงยังไงก็ลองพยายามดูนะคะ 加油 加油!
jiā yóu jiā yóu เจียอิ๋ว เจียอิ๋ว สู้สู้ค่ะ ^^

7/16/2556

我自己来 ขอผม (ฉัน)....เอง



สำนวนจีน 我自己来
我自己来 Wŏ zì jǐ lái [หว่อจื้อจี่ไหล = ขอผม(ฉัน)..เอง]
 

 ตัวอย่างประโยค

对话一 บทสนทนา 1

A: 我给你倒杯茶吧!
     Wŏ gĕi nǐ dào bēi chá ba!
     หว่อเก๋ยหนี่เต้าเปยฉาปะ
      = ผมเทชาให้คุณสักถ้วยนะ

B: 我自己来 Wŏ zì jǐ lái
     หว่อจื้อจี่ไหล
     = ผมเทเองครับ

对话二 บทสนทนา 2

A: 你的脏衣服拿来 我给你洗洗
    Nǐ de zāng yī fú ná lái wŏ gĕi nǐ xǐ xǐ
    หนี่เตอจังอีฝูหน่าไหล หว่อเก๋ยหนี่สีสี่
    = เอาเสื้อผ้า (สกปรก) ที่ใส่แล้วมา ฉันจะซักให้นะ

B: 我自己来 Wŏ zì jǐ lái
     หว่อจื้อจี่ไหล
    = ผมซักเองครับ


ติดตามสำนวนอื่นๆ เพิ่มเติมได้จาก
ดีวีดีเพื่อสื่อการเรียนการสอนภาษาจีน
ชุด "50 สำนวนจีนฮิตติดปาก"

ที่มาของสัตว์ต่างๆ ใน 12 นักษัตร

ที่มาของสัตว์ต่างๆ ใน 12 นักษัตร
มีความเชื่อว่าคนโบราณได้ตั้งชื่อหน่วยเวลาตามการดำเนินชีวิตของสัตว์ต่างๆ โดยเริ่มจาก



1. ชวด (หนู) ช่วงเวลา “ยามจื่อ” (子时) ในสมัยก่อนก็คือเวลา 5 ทุ่มถึงตีหนึ่งช่วงเวลานั้นเป็นเวลาอึกทึก ของหนู


2. ฉลู (วัว) ช่วงเวลา “ยามโฉ่ว” (丑时) คือช่วงเวลาตี 1 ถึงตี 3 เป็นช่วงเวลาที่วัวจะกินหญ้าเพื่อเตรียมออกไปไถนา

3. ขาล (เสือ) ช่วงเวลา “ยามอิ๋น” (寅时) คือช่วงเวลาตี 3 ถึงตี 5 เป็นช่วงเวลาที่เสือดุร้ายมากที่สุด

4. เถาะ (กระต่าย) “ยามเหมา” (卯时) คือตี 5 ถึง 7 โมงเช้า เป็นช่วงเวลาที่พระจันทร์ยังคงลอยอยู่บนท้องฟ้า ตำนานกล่าวไว้ว่ามีกระต่ายบนดวงจันทร์ ฉะนั้นเวลานี้จึงแทนด้วยกระต่าย

5. มะโรง (มังกร) “ยามเฉิน” (辰时) คือเวลา 7 โมงถึง 9 โมงเช้า แม้เราจะไม่เคยเห็นมัน แต่คนโบราณเชื่อว่า เป็นเวลาที่ “มังกรพ่นฝน” ดังนั้นช่วงเวลานี้จึงแทนด้วยสัตว์ลึกลับที่เล่าขานกันมาอย่าง มังกร

6. มะเส็ง (งู) “ยามซื่อ” (巳时) ช่วงเวลา 9 โมงเช้าถึง 11 โมง กล่าวกันว่า เป็นช่วงเวลาที่งูลอกคราบในทุ่งหญ้า และออกจากรูมาล่าเหยื่อเป็นอาหาร

7. มะเมีย (ม้า) “ยามอู่” (午时) คือ 11 โมงถึงบ่ายโมง เนื่องจากแสงสว่างเริ่มหม่นลงจากเวลาเที่ยง แต่ม้ายังคงวิ่งเป็นพันลี้ ม้าเป็นตัวแทนของเวลามืดครึ้ม ดังนั้นจึงใช้ม้าแทนช่วงเวลานี้

8. มะแม (แพะ) “ยามเว่ย” (未时) คือบ่ายโมงถึงบ่าย 3 กล่าวกันว่าเป็นช่วงเวลาที่แพะกำลังออกกินหญ้าแล้วต้นหญ้าจะงอกใหม่ได้

9. วอก (ลิง) “ยามเซิน” (申时) คือบ่าย 3 ถึง 5 โมงเย็น ฟ้าใกล้มืดแล้ว ลิงมักจะส่งเสียงร้อง

10. ระกา (ไก่) “ยามโหย่ว” (酉时) คือเวลา 5 โมงเย็นถึงทุ่มตรง เวลานี้เป็นเวลาขึ้นของดวงจันทร์มีตำนานเรื่อง “ไก่ทองอาทิตย์” ดังนั้นจึงแทนด้วยไก่

11. จอ (สุนัข) “ยามซวี” (戌时) คือเวลา 1 ทุ่มถึง 3 ทุ่ม เวลานี้เป็นเวลาเริ่มต้นกลางคืน สุนัขเป็นสัตว์เฝ้ายาม จึงแทนด้วยสุนัข

12. กุน (หมู) “ยามไฮ่” (亥时) คือเวลา 3 ทุ่มถึง 5 ทุ่ม เป็นช่วงเวลาที่ฟ้าดินอลหม่านที่สุด แต่หมูกลับชอบนอนที่สุด



เดรดิตข้อมูล หนังสือการ์ตูน
"อ๋อ! อย่างนี้นี่เอง ฉลาดรู้ทุกเรื่องของเมืองจีน"
สำนักพิมพ์ THONGKASEM

7/15/2556

中国四大美女 สาวงามทั้งสี่แห่งประเทศจีน

中国四大美人
西施、王昭君、貂蝉和杨贵妃,
สาวงามทั้งสี่แห่งประเทศจีน (四美)


 ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของจีน นอกจากจะมีวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่มากมายแล้ว ยังมีสตรีที่มีชื่อเสียงโดดเด่นอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาวงามที่ใครๆ ก็ต้องมองด้วยความชื่นชมและหลงใหล จนมีคำเปรียบเปรยที่กล่าวไว้ว่า “มัจฉาจมวารี, ปักษีตกนภา, จันทร์หลบโฉมสุดา มวลผกาละอายนาง” เป็นคำเปรียบเปรยสำหรับสาวงามทั้งสี่ ซึ่งเป็นที่กล่าวขานในประวัติศาสตร์จีน ได้แก่
ไซซี (西施) หวังเจาจวิน (王昭君) เตียวเสี้ยน (貂蝉) และ หยางกุ้ยเฟย (杨贵妃)








ไซซี (西施 Xīshī ซีซือ) มัจฉาจมวารี
ไซซีคือหญิงชาวเวียดนามในปลายสมัยชุนชิว วันหนึ่งขณะที่ไซซีกำลังซักผ้าอยู่ข้างลำธารที่ใสสะอาด ปลาต่างๆ ในน้ำได้ยลความงามของนาง จนตกตะลึง กระทั่งลืมโบกครีบทำให้จมลงสู่ก้นลำธาร
ทำให้ไซซีได้ฉายาว่า “มัจฉาจมวารี” นั่นอง


หวังเจาจวิน ปักษีตกนภา 王昭君 (Wángzhāojūn)
หวังเจาจวินแห่งราชวงศ์ฮั่น เป็นสตรีที่มีพรสวรรค์และมีใบหน้างดงาม ฮ่องเต้ฮั่นหยวนตี้ต้องการเป็นทองแผ่นเดียวกับชาวซงหนู (มองโกล) จึงส่งตัวหวังเจาจวินไปแต่งงานกับหันเสียตันอวี๋ ลูกชายคนโตของชาวซงหนู ระหว่างการเดินทางนั้น หวังเจาจวินเหม่อมองนกที่บินอยู่บนท้องฟ้าแล้วเกิดคิดถึงบ้าน นางจึงบรรเลงพิณจีน เมื่อฝูงนกได้เห็นความงามของนาง ก็ทำให้ลืมกระพือปีกและตกลงสู่พื้นดิน ผู้คนจึงพากันกล่าวขานว่า หวังเจาจวินมีความงามจนทำให้ “ปักษีตกนภา”



เตียวเสี้ยน จันทร์หลบโฉมสุดา貂蝉 (Diāochán เตียวฉาน)
เตียวเสี้ยนเป็นที่รู้จักจากเรื่อง สามก๊ก นางไม่เพียงมีรูปโฉมงดงาม เสียงร้องและลีลาการร่ายรำก็เป็นที่น่าหลงใหลเช่นเดียวกัน เล่ากันว่า วันหนึ่งขณะที่นางกำลังนั่งชมจันทร์อยู่ในสวน พลันก็มีกลุ่มเมฆลอยมาบดบังดวงจันทร์ ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่กล่าวขานกันว่า พระจันทร์ต้องการแข่งความงามกับเตียวเสี้ยน แต่ก็ต้องแพ้นาง จึงเกิดความละอายหลบเข้าหลังกลุ่มเมฆ ผู้คนจึงพากันให้ฉายา นางว่า
“จันทร์หลบโฉมสุดา”





หยางกุ้ยเฟย มวลผกาละอายนาง  杨贵妃 (Yángguìfēi)
หยางกุ้ยเฟยเป็นสาวงามแห่งราชวงศ์ถัง มีอยู่ครั้งหนึ่งนางไปนั่งชมดอกไม้ในสวน เนื่องจากมีเรื่องทุกข์ใจ บังเอิญมือไปกระทบเข้ากับต้นไมยราบทำให้มันหุบกลีบลงทันที หลังจากฮ่องเต้ถังเสวียนจงรู้เรื่องเข้า จึงทรงกล่าวชมว่า หยางกุ้ยเฟยงดงามจนดอกไม้ยังอาย นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อ “มวลผกาละอายนาง” แต่ด้วยความที่ฮ่องเต้ถังเสวียนจงมัวแต่หลงงมงายในหญิงงาม จนไม่สนบริหารงานบ้านเมือง บวกกับที่มีขุนนางทุจริต เป็นเหตุให้ราชวงศ์ถังเสื่อมถอย ประเทศชาติอ่อนแอ ท้ายที่สุด หยางกุ้ยเฟยก็ต้องจบชีวิตลงท่ามกลางเหตุการณ์วุ่นวายในครั้งนั้น






Credit photos from www.baidu.com

建议 โพสต์แนะนำ

สำนวนจีน VS สำนวนไทย Part 5 [W]

สำนวนจีนที่ขึ้นต้นด้วยพินอิน w  挖墙脚  [wāqiángjiǎo]  โค่นล้ม (比喻拆台) 外强中干  [wàiqiángzhōnggān]  แข็งนอกอ่อนใน/ภายนอกดูแข็งแรงแท้จริงแล้วอ่อนแอ ...